เมื่อเราได้ทำการค้นหาอะไรบางอย่างบน Google เราจะได้ผลลัพธ์ในการค้นหา เป็นลิงค์เว็บไซต์ที่มีความเกี่ยวข้องกับข้อมูลที่เราต้องการ นอกจากนี้ผลลัพธ์การค้นหาที่ Google ส่งกลับมาให้เรานั้นยังมีความถูกต้องแม่นยำตามที่เราต้องการอีกด้วย
นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไมผู้คนถึงสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยที่พวกเขาแทบจะไม่ต้องเปิดไปดูผลลัพธ์การค้นหาในหน้าถัดไปเลยก็ได้ ทั้งนี้ความจริงแล้วมีประชากรเพียงร้อยละ 10 จากหลายล้านคนที่เปิดดูผลลัพธ์การค้นหาบน Google ในหน้าถัดไป นั่นหมายความว่า ความหนาแน่นของผู้เข้าชมผลลัพธ์ของ Google จะอยู่ที่หน้าแรกกันเสียส่วนใหญ่
และจากการที่เสิร์ชเอนจิ้นอย่าง Google จะเก็บค่าบริการใน Adwordsจากการคลิกเพียงครั้งเดียว ในการเข้าชมเว็บไซต์แต่ละครั้ง ดังนั้นวางใจได้เลยว่าผู้คนที่เข้ามาชมเว็บไซต์ของคุณน่าจะต้องการเข้ามาซื้อสินค้า หรือบริการของคุณอย่างแน่นอน
ข้อได้เปรียบของ SEO กลไกการทำงานของเสิร์ชเอนจิ้นก็เหมือนกลไกที่ช่วยผลักดันให้คุณ ทำการปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณ เพื่อให้เว็บไซต์นั้นสามารถก้าวขึ้นสู่อันดับต้นๆ ในผลการค้นหาบนหน้าเสิร์ชเอนจิ้น ซึ่งกลไกนี้จะเป็นไปตามธรรมชาติของมันเอง ตามที่มีการวางระบบเอาไว้ จุดแข็งของการจัดอันดับเว็บไซต์โดย SEO นั้น เว็บไซต์ของคุณจะสามารถขึ้นไปอยู่ในรายการอันดับต้นๆ ได้โดยไม่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มของลิงค์โฆษณา ซึ่งเป็นข้อดีของการจัดอันดับในลักษณะนี้ เนื่องจากผู้คนจะเลือกคลิกไปที่รายการเว็บไซต์ ที่อยู่ในหน้าการค้นหาแบบธรรมดา มากกว่าที่จะคลิกลิ้งค์ที่อยู่ในส่วนของป้ายโฆษณา
ข้อได้เปรียบอีกอย่างหนึ่งของ SEO คือ มันฟรี! หรือไม่ก็เป็นวิธีการที่ประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด ที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณสามารถขึ้นไปอยู่ในรายการผลลัพธ์การค้นหาอันดับต้นๆ ของ Google ได้
นอกจากนี้ การใช้ระบบ SEO จะช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณให้เพิ่มมากขึ้นได้เรื่อยๆ (ตราบใดที่เว็บไซต์ของคุณมีเนื้อหาที่มีคุณภาพและน่าสนใจ) ในความเป็นจริงแล้ว อัตราการเข้าชมเว็บไซต์ที่เกิดจากการคลิกผ่าน SEO นั้น มีปริมาณที่สูงกว่าการคลิกผ่าน Adwordsถึง 8 เท่าเลยทีเดียว ซึ่งน่าจะเป็นผลสืบเนื่องจาก เว็บไซต์ที่ถูกจัดอันดับโดย SEO น่าจะมีความน่าเชื่อถือ และได้รับความนิยมในกลุ่มผู้คนที่เข้าชมเป็นอย่างมาก อีกทั้งผู้คนโดยส่วนมาก มักจะหลีกเลี่ยงการเข้าชมเว็บไซต์ที่เป็นป้ายโฆษณา
SEO vs. Adwords: ระบบไหนเหมาะสมกับธุรกิจของคุณมากที่สุด สิ่งที่เป็นข้อแตกต่างที่สุดของ SEO และ Adwords คือ เวลา และ ค่าใช้จ่าย
ให้เลือกใช้SEO เป็นแผนระยะยาว ด้วยเหตุที่คุณจะต้องทำการพัฒนาเนื้อหาในเว็บไซต์ ให้เข้ากับระบบของ SEO ทำให้คุณต้องใช้เวลาในการพัฒนาค่อนข้างมาก อาจจะใช้เวลาเป็นปี เพื่อสร้างความชำนาญในการสร้างเนื้อหา และค้นหาแนวทางที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณ ขึ้นไปสู่อันดับต้นๆ ในรายการผลลัพธ์ของ Google ให้ได้
ซึ่งในจุดนี้ หากคุณเลือกใช้ระบบ SEO คุณจะต้องพัฒนาเนื้อหาในเว็บไซต์ ให้มีคุณภาพสูง, ใช้เวลาในการสรรสร้างลิงค์ต่างๆให้มีความเหมาะสมและครบถ้วน, มุ่งเน้นในการเพิ่มอัตราการเข้าชมเว็บไซต์ และเพิ่มการจัดอันดับเว็บไซต์ของคุณ ให้อยู่ในลำดับต้นๆ บนหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Google ให้ได้
ทั้งนี้เนื่องจากเสิร์ชเอนจิ้นทั้งหลายจะต้องจัดเตรียมและประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ที่เป็นผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องตามที่ผู้สืบค้นต้องการ และถ้าคุณสามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณ มีความเข้ากันได้กับระบบ SEO จะทำให้อัลกอริธึมของระบบ สามารถตรวจจับความเกี่ยวข้องของเนื้อหาในเว็บไซต์ และแสดงลิงค์เว็บไซต์ของคุณบนหน้าผลลัพธ์การค้นหาได้