การออกแบบเว็บอะไรคือสิ่งที่คุณไม่ควรทำ
1. ไม่มีแผน
ปัญหาการออกแบบเว็บที่ร้ายแรงที่สุด คือการเริ่มต้นโดยไม่มีแผน สิ่งสำคัญที่สำหรับเว็บธุรกิจ ก็คือเรื่องเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ที่สามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกต้อง การไม่รู้จักกลุ่มเป้าหมายอย่างดีพอ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่พวกเขาเห็น, ภาษาบนสังคมออนไลน์ที่พวกเขาใช้, โซเชียลมีเดียแบบไหนที่พวกเขาใช้ และการโต้ตอบของกลุ่มเป้าหมายบนโลกออนไลน์ เหล่านี้คือสิ่งสำคัญที่คุณควรรู้การศึกษาผลลัพธ์จากเว็บไซต์ชื่อดังทางด้านธุรกิจ 5 หรือ 10 แห่ง จะทำให้คุณเกิดไอเดีย และเป้าหมายถัดไปของคุณคือ ให้เว็บไซต์ของคุณรวมอยู่ในผลลัพธ์ยอดนิยมเหล่านี้
2. "ฉลาด" มากเกินไป
ข้อผิดพลาดที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง ที่นักออกแบบเว็บไซต์บางรายกระทำ คือการเว็บไซต์ฉลาด หรือมีความเป็นศิลปะมากเกินไป ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในปัจจุบันไม่ได้ท่องเว็บมากเท่าที่พวกเขาค้นหาเจอ วันนี้อินเทอร์เน็ตไม่ได้เป็นเรื่องของความแปลกใหม่ แต่ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลผู้ค้นหามีข้อมูลความรู้มากขึ้น และมีการคัดกรองข้อมูลมากขึ้น และเว็บไซต์ก็มีจำนวนมากขึ้น ที่จะต้องใช้เวลาในการค้นหา ดังนั้น ผู้ค้นหาคาดหวังที่จะได้รับแจ้งเตือนเรื่องที่ต้องการ และหวังว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วเว็บไซต์ที่ใช้สคริปต์ที่ใช้เวลาในการโหลดมากเกินไป, เว็บที่มีการเกริ่นนำมาเกินไป หรือไม่นำเสนอข้อมูลตามที่ผู้ค้นหาต้องการ เว็บเหล่านี้จะถูกมองข้ามไป เป็นต้นว่าในปัจจุบัน เว็บไซต์ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมในการจัดอันดับ อาจไม่มีผลต่อผู้ใช้บางคนเลยก็ได้
3. ไม่มีพื้นที่สำหรับการพัฒนาในอนาคต
การไม่เตรียมพร้อมต่อการขยับขยายตัว สำหรับเทคโนโลยีหรือคุณสมบัติใหม่ๆ ถือเป็นการละเลยอย่างจริงจังสำหรับผู้สร้างเว็บไซต์ เช่น การปรับปรุงครั้งล่าสุดเมื่อปี พ. ศ. 2555 จะยิ่งทำให้ผู้ใช้ปิดหน้าเว็บนั้นไปเลย สำหรับพวกเขาแล้ว นี่แสดงให้เห็นถึงความไม่ใส่ใจ และไม่เคร่งครัดในเรื่องความทันสมัยและความพึงพอใจของผู้ชม นอกจากนี้ ยังแสดงให้เห็นว่าผู้ออกแบบไม่ทำให้เว็บไซต์ทำงานร่วมกับโทรศัพท์สมาร์ทโฟน และโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ได้ปัจจุบันเว็บมีการเคลื่อนย้ายลงสู่โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ส่วนบุคคลในปัจจุบันมีความซับซ้อนมากขึ้น และมีความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลมากกว่าเครื่องพีซีรุ่นก่อนหน้า การทำเว็บไซต์ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีบนโทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ส่วนบุคคลในรูปแบบใหม่ได้ นั่นหมายถึงการสูญเสียการติดต่อกับลูกค้า และในที่สุดก็จะทำให้เว็บถึงจุดจบได้
4. เนื้อหาเก่า
เนื้อหาที่เก่าและไม่สมบูรณ์หรือมีความน่าเบื่อ จะทำให้ผู้เข้าชมรู้สึกเบื่อไปด้วย หากคุณหรือพนักงานของคุณเขียนเนื้อหาไม่ดีเท่าไร ให้พิจารณาจ้างนักเขียนบทความที่มีชื่อเสียง และตรงกับสิ่งที่คุณต้องการ การเขียนที่ไม่ดี, ไม่อิงจากเจ้าของภาษา, มีการเติมคำที่ผิดแปลก และการใช้คำค้นที่แน่นเกินไป จะเป็นภัยต่อเว็บไซต์ของคุณ
5. ไม่มี TOS
เมื่อเว็บไซต์ของคุณเสี่ยงตกอยู่ภายใต้การโจมตี หรือถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด ทำให้การระมัดระวังบนโลก ออนไลน์นั้น แทบเป็นไปไม่ได้ ซึ่งกฎหมาย TOS จะครอบคลุการคุ้มครอง TOS (ข้อกำหนดในการใช้บริการ)จะแสดงไว้ในส่วนใดส่วนหนึ่งของเว็บ มักจะเป็นหน้าสุดท้ายของเพจ นี่เป็นเรื่องทางกฎหมายที่สำคัญในการปกป้องธุรกิจของคุณ จากการถูกฟ้องร้อง และใช้กล่าวหาผู้ที่นำเนื้อหาจากเว็บไซต์ไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม อินเทอร์เน็ตเป็นเรื่องยากที่ตำรวจจะเข้าถึง ในขณะที่มีมัลแวร์และแฮ็กเกอร์รออยู่มากมาย
6. ไม่มีส่วนการติดต่อ
การขาดการติดต่อสื่อสารที่ชัดเจน เป็นอีกหนึ่งข้อผิดพลาดที่พบได้บ่อย ผู้ที่เข้ามาค้นหาในส่วนนี้ ต้องการอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์เฉพาะ และมีชื่ออีเมลก่อนหน้าสัญลักษณ์ @ รวมถึงเลขหมาย 800 ที่ไม่สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ซึ่งจะขัดขวางการสอบถามข้อมูล เนื่องจากต้องการตรวจสอบว่าคุณเป็นใครก่อนที่จะทำธุรกิจกับคุณ แล้วอย่าลืมเช็คอีเมลของคุณเป็นประจำการมีบล็อกที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับเว็บเพจ ถือเป็นการละเลยที่ค่อนข้างแย่เลยทีเดียว ปกติแล้วบล็อกจะช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ สามารถติดต่อกับลูกค้าและผู้ค้นหา, ดึงดูดผู้เข้าชมมากขึ้น, เก็บสิ่งที่คุณมี ให้อยู่ในความคิดของพวกเขาให้มากที่สุด พยายามทำให้เนื้อหามีความเข้ากันได้กับกลุ่มเป้าหมาย
7. เลือกภาพที่ไม่ดี
รูปถ่ายและภาพดึงดูดความสนใจจากผู้ชมมากกว่าคุณลักษณะแบบอื่นๆ รูปภาพที่จะดึงดูดให้ผู้เข้าสนใจ การใช้ภาพจากคลังถือเป็นปัญหาร้ายแรง สำหรับรูปภาพที่มีคนอื่นใช้กันเยอะเพื่อนำไปใช้ในวัตถุประสงค์ต่างๆ การใช้ภาพต้นฉบับที่ทำให้คุณแตกต่างออกไป จะบ่งบอกว่าคุณคือใคร และเสริมสร้างการเชื่อมต่อกับลูกค้า ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงหากคุณใช้ภาพคลัง ให้ซื้อสิทธิ์ในการใช้เพื่อป้องกันตัวเองจากคดีที่อาจเกิดขึ้น
8. แปลข้อมูลให้ลูกค้าผิด
เราได้ยินเรื่องราวของคนที่ทำเว็บไซต์มอคอัพ แล้วพูดในลักษณะที่ว่า "มันต้องโดดเด่นมากขึ้น!" หรือ "ทำให้มันเบาบางลง" โดยที่ไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาต้องการจะสื่อ อาจเป็นเรื่องที่เจ็บปวด แต่นี่คือการแปลวลีเป็นภาษาที่คุณสามารถใช้ได้จริง ทางซ้ายคือสิ่งที่ลูกค้าพูด และทางขวาคือสิ่งที่พวกเขาหมายถึงจริงๆ:"ทำให้ดูหรูหราขึ้น" = แบบอักษรกว้างๆ ในตัวพิมพ์ใหญ่ที่มีการเว้นระยะห่างของตัวอักษร" มันไม่ได้ดูโดดเด่นสำหรับฉัน" = สว่างขึ้น, ตัวหนาและมีเงา"ต้องมีความเป็นมิตรมากขึ้น" = อักษรตัวหนาและอักษรตัวพิมพ์เล็กๆ ที่ไม่มีขีดตรงสุดปลายขอบตัวอักษร"ย้อนยุคมากขึ้นอีกนิดได้ไหม?" = มีรูปทรงประหลาดๆ เป็นพื้นหลัง"ทำให้ดูดี" = ใช้ตัวอักษร TRAJAN PRO"ต้องเป็นเงา" = เพรียวบาง หรูหรา และเงางาม
การออกแบบเว็บไซต์ เป็นเรื่องของการนำเสนอภาพลักษณ์ที่ดีที่สุดของธุรกิจของคุณ ความเร็วของเว็บ ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นของผู้ค้นหาทั่วโลก การแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในแต่ละอุตสาหกรรม และการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่จะสามารถทำให้เทคโนโลยีใช้งานได้อย่างรวดเร็วและทันสมัย การเลือกใช้เทคโนโลยีที่ล้าสมัยในขณะนี้ ถือเป็นเรื่องร้ายแรงอย่างมาก ดังนั้นจึงควรมีการเตรียมพื้นที่สร้างห้องเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างราบรื่นและรวดเร็ว และมุ่งเน้นให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลางที่สุด หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดและแก้ไขก่อนที่จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาจนแก้ไขได้ยาก
เว็บไซต์ธุรกิจอาจเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาด ที่สำคัญที่สุดสำหรับการประสบความสำเร็จทางธุรกิจ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่อดคิดไม่ได้ หากธุรกิจหนึ่งๆ ไม่มีเครือข่ายออนไลน์ในตลาดทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะจ้างนักออกแบบเว็บไซต์ หรือหากคุณเลือกที่จะทำเว็บด้วยตัวคุณเอง ควรหลีกเลี่ยงสิ่งต่างๆ ที่สามารถเลี่ยงได้เพื่อความปลอดภัย การรู้และเข้าใจว่าอะไรจะก่อให้เกิดปัญหา ก่อนที่จะเริ่มต้นสร้างเว็บจะช่วยประหยัดเวลาในการซ่อมแซมและแก้ไขได้เป็นอย่างมาก
