เฟสบุ๊คเปลี่ยนแปลงการนำเสนอนิวส์ฟีด

เฟสบุ๊คเปลี่ยนแปลงการนำเสนอนิวส์ฟีด

11 มกราคม ที่ผ่านมา มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กประกาศว่าเฟสบุ๊คจะมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการนำเสนอนิวส์ฟีด เพื่อเน้นเนื้อหาจาก “เพื่อน, ครอบครัว และกลุ่มต่างๆ” เป็นอันดับแรก “ในขณะที่เราทำการผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้ออกมา”

ซัคเคอร์เบิร์กได้เขียนว่า “คุณจะเห็นเนื้อหาเชิงธุรกิจ, แบรนด์ต่างๆ และจากสื่อที่เปิดสาธารณะ และเนื้อหาที่เปิดเป็นสาธารณะที่คุณจะเห็นเพิ่มมากขึ้นจากมาตรฐานเดิม ซึ่งควรจะเน้นการมีปฏิสัมพันธ์ของผู้ใช้อย่างมีความหมาย”ซัคเคอร์เบิร์กยังได้อ้างเพิ่มเติมว่า “ความรับผิดชอบที่ไม่ลืมว่าบริการต่างๆของเราไม่ได้ใช้สำหรับความเพลิดเพลินเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์สำหรับชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของผู้คน” ซึ่งเป็นการให้เหตุผลเพิ่มเติมสำหรับการเปลี่ยนแปลงนี้ โดยยอมรับว่าธุรกิจต่างๆจะต้องพยายามกันมากขึ้นกว่าที่เคยเพื่อเพิ่มความสนใจจากลูกค้าบนแพลตฟอร์มนี้

ธุรกิจต่างๆจะเห็นว่าจำนวนคนเห็นโฆษณาจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดในระหว่างการเปลี่ยนแปลงนี้ที่จะเกิดขึ้นในอีกสองถึงสามเดือน นอกจากนี้ผู้ใช้ก็อาจจะใช้เวลาน้อยลงบนเฟสบุ๊ค ถึงแม้ว่าซัคเคอร์เบิร์กจะหวังว่าเวลาที่ผู้ใช้ใช้บนแพลตฟอร์มจะเป็น “การใช้เวลาอย่างมีประโยชน์”

ฟังดูมีความสมเหตุสมผล อย่างน้อยก็ยึดตามข้อมูลก่อนหน้านี้ จำนวนครั้งที่โฆษณาที่โหลดขึ้นมาในหน้านิวส์ฟีดของเฟสบุ๊คในเดือนมกราคมตกลงเรื่อยๆในแต่ละปี และในเดือนกุมภาพันธ์จำนวนโฆษณาที่โหลดขึ้นจะเพิ่มขึ้น แต่จะมีอัตราน้อยลงกว่าเดิมมากเมื่อเทียบกับเดือนก่อนๆ

การโหลดโฆษณาขึ้นมาจำนวนน้อยลงนั้นหมายความว่าราคาของโฆษณาก็จะเพิ่มขึ้น ในเดือนมกราคม ค่าใช้จ่ายเมื่อคนเห็นครบ 1,000 คนบนเฟสบุ๊คเพิ่มขึ้น 122 เปอร์เซ็นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปี ในเดือนกุมภาพันธ์ค่าใช้จ่ายเมื่อคนเห็นครบ 1,000 คนเพิ่มขึ้น 77 เปอร์เซ็นซึ่งเป็นคะแนนที่กระโดดขึ้นสูงที่สุดในช่วงเวลาเดียวกันกับสองปีก่อนสำหรับราคาโฆษณาของเฟสบุ๊ค 14 เดือนที่ผ่านมา

เข้าถึงลูกค้าอย่างต่อเนื่องบนเฟสบู๊คได้อย่างไร
ในขณะที่ไม่มีใครทราบอย่างแน่ชัดว่าผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงรูปแบบนิวส์ฟีดจะเป็นอย่างไร แน่นอนว่ามีหลายวิธีสำหรับธุรกิจต่างๆบนเฟสบุ๊คในการทำงานร่วมกับรูปแบบคำสั่งใหม่นี้ และเข้าถึงลูกค้าอย่างต่อเนื่องผ่านการ“ปฏิสัมพันธ์อย่างมีความหมาย”

โพสต์ต่อไปเพื่อเชื่อมต่อ ทั้งคิดเนื้อหาที่มีคุณภาพซึ่งเหมาะกับการแสดงความคิดเห็น
เนื่องด้วยการกล่าวของซัคเคอร์เบิร์กกับคำว่า “ปฏิสัมพันธ์อย่างมีความหมาย” นั่นก็หมายถึงการแสดงความคิดเห็น และการแสดงความคิดเห็นที่เพิ่มขึ้น จากการประกาศของเขาเองนั้นมีข้อความว่า “เพจต่างๆที่โพสต์แล้วไม่มีผู้ใช้แสดงปฏิกิริยาใดๆ หรือแสดงความคิดเห็นอาจจะประสบกับการจำหน่ายที่ลดลงเพจต่างๆที่โพสต์ข้อความต่างๆที่เหมาะสมกับรายชื่อเพื่อนจะประสบกับผลกระทบที่น้อยกว่า” นั่นหมายความว่าแบรนด์ต่างๆควรจะสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพโดยเน้นการสนทนาที่มีชีวิตชีวาระหว่างผู้ใช้พยายามรวมคำถามไว้ในโพสต์ของคุณหรือเขียนเกี่ยวกับหัวข้อที่เข้าประเด็นกับเวลาในช่วงนั้นซึ่งคิดว่าผู้ใช้ต้องอยากแสดงความคิดเห็นอย่างแน่นอนประเด็นก็คือผู้ใช้จะเห็นโพสต์ของคุณบนเฟสบุ๊คก็ต่อเมื่อเพื่อนและครอบครัวได้มีการแสดงความคิดเห็นลงไป

แต่อย่าเผลอไปติดกับดักกับโพสต์ดัก
อาจจะน่าลองในการพยายามแฮ็ครูปแบบใหม่นี้โดยการขอให้ผู้ติดตามเพจของคุณ “แสดงความคิดเห็นบนโพสต์นี้หากคุณชอบทานไอศรีม!!” หรืออะไรที่คล้ายๆกันนอกจากเป็นการสแปมแล้ว ผู้ใช้ยังไม่ชอบนักนอกจากนี้ เฟสบุ๊คยังได้กล่าวว่า “การใช้ ‘โพสต์ดัก’ เพื่อกระตุ้นคนให้เข้ามาแสดงความคิดเห็นในโพสต์ไม่ใช่การปฏิสัมพันธ์อย่างมีความหมาย และเราจะลดระดับโพสต์แบบนี้ในหน้านิวส์ฟีดต่อไป”

ส่งเสริมให้ลูกค้าติดตามเพจบนเฟสบุ๊คของคุณ
สิ่งหนึ่งที่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงนิวส์ฟีดของเฟสบุ๊คคือความสามารถสำหรับผู้ใช้ในการเน้นย้ำให้ผู้คนเห็นโพสต์ต่างๆจากเพจโปรดของตน โดยการคลิกที่“เห็นโพสต์ก่อน”ในการตั้งค่านิวส์ฟีดให้เหมาะสมกับการใช้ของคุณ หมายความว่าธุรกิจต่างๆไม่ควรเขินอายในการขอให้ลูกค้ากดติดตามเพจบนหน้าเฟสบุ๊ค นอกจากนี้ยังสามารถเตือนให้ผู้ติดตามที่จงรักภักดีคลิกที่“เห็นโพสต์ก่อน”ได้อีกด้วย

ลงวีดีโอถ่ายทอดสดบนเฟสบุ๊คเพิ่มขึ้น
วีดีโอต่างๆยังได้รับสิทธิพิเศษเหมือนเคยในรูปแบบใหม่นี้แต่วีดีโอถ่ายทอดสดจะมีความสำคัญยิ่งกว่าเดิมจากการประกาศของซัคเคอร์เบิร์กนั้นเขาได้เขียนว่า“วีดีโอถ่ายทอดสดมักจะนำไปสู่การแลกเปลี่ยนความคิเห็นระหว่างผู้ที่รับชมบนเฟสบุ๊ค โดยข้อเท็จจริงแล้วนั้นวีดีโอถ่ายทอดสดนั้นได้รับปฏิสัมพันธ์มากกว่า 6 เท่าของวีดีโอธรรมดา” หมายความว่าหากคุณยังไม่ได้ใช้เวลาและความคิดในการโพสต์วีดีโอถ่ายทอดสดบนเฟสบุ๊คคุณควรจะทำตอนนี้อย่างมากวีดีโอถ่ายทอดสดเป็นหนึ่งในตัวอย่างรูปธรรมไม่กี่ตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าเนื้อหาจะทำงานได้ดีภายใต้รูปแบบใหม่นี้ซึ่งรวมไว้ในการประกาศดังนั้นเราทั้งหมดควรจะให้ความสนใจให้ดีต่อรายละเอียดดังกล่าว

ใช้เวลาในกลุ่มของเฟสบุ๊ค
กลยุทธ์ทางการตลาดนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณภายใต้รูปแบบใหม่นี้เนื่องจากกลุ่มต่างๆของเฟสบุ๊คทำงานด้วยการเชื่อมต่อผู้ใช้ ธุรกิจต่างๆควรจะมองหาวิธีใหม่ๆในการเชื่อมต่อกับลูกค้าด้วยกลุ่มต่างๆนี้ รวมถึงการใช้เพจและการโฆษณาต่างๆ

เพิ่มงบประมาณโฆษณาของคุณ
จำนวนการเห็นโพสต์นั้นลดลงบนโซเชียลมีเดียมาหลายปี หมายความว่าคุณก็อาจจะมีความชำนาญเกี่ยวกับโฆษณาบนเฟสบุ๊คแล้ว หากรูปแบบการเปลี่ยนแปลงใหม่นี้นำไปสู่การใช้เวลาที่น้อยลงจริงๆ มันก็ควรจะนำไปสู่การเห็นโฆษณาที่น้อยลงตามหลักทฤษฎี และการเห็นโฆษณาที่น้อยลงนั้นจะนำไปสู่ราคาที่สูงขึ้น เมื่อสมมุติว่าความต้องการในการโฆษณายังอยู่ระดับเดิมอยู่ ธุรกิจต่างๆควรจะทราบว่าจะเข้าห้าลูกค้าเป้าหมายได้อย่างไร เพื่อให้แน่ใจว่าโฆษณาที่ลงทุนไปจะไปได้ไกล

นอกจากนี้ยังไม่เป็นผลใดๆเนื่องจากเทรนด์เห็นโพสต์น้อยลง แต่ราคาสูงขึ้นนั้นเกิดขึ้นมาแล้วในช่วงสองสามไตรมาศที่ผ่านมา เฟสบุ๊คยังเคยกล่าวในอดีตอีกว่าไม่เหลือที่ให้วางโฆษณาแล้วในหน้านิวส์ฟีด หมายความว่าการเห็นโพสต์ก็จะลดลงตามหลักทฤษฎีเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ เนื่องจากเฟสบุ๊คนั้นถึงจุดที่การบรรจุของโฆษณานั้นเต็ม

และดูเหมือนกำลังเกิดขึ้นจริงๆ เมื่อเฟสบุ๊คยังได้ประกาศเองอีกว่าการเห็นโพสต์โดยการโฆษณานั้นสูงขึ้น 10 เปอร์เซ็นในไตรมาศ 3 ของปี 2017 และขึ้นเพียง 4 เปอร์เซ็นในไตรมาศที่ 4 การเปลี่ยนแปลงรูปแบบนี้อาจจะทำให้เราเห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นชัดเจนมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องเตือนความจำอีกว่าระบบโฆษณาของเฟสบุ๊คนั้นเป็นระบบที่ทำงานแบบเครื่องจักร เป็นขบวนการประมูลด้วยการตั้งราคาโดยยึดตามความต้องการ และการแข่งขัน และไม่ได้ไม่มีการลำเอียงต่อผู้ซื้อ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ขนาดใหญ่ หรือเป็นแคมเปญเกี่ยวกับการเมือง

เคล็ดลับเหล่านี้มีประโยชน์สำหรับการลงเนื้อหาประกาศบนแพลตฟอร์มต่างๆของโซเชียลมีเดีย ไม่เพียงแค่บนเฟสบุ๊คอย่างเดียว เฟสบุ๊คเป็นธุรกิจด้านโฆษณาดังนั้นจึงคุ้มค่าในการคอยจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าการเปลี่ยนแปลงของผู้บริโภคจะมีผลกระทบอย่างไรโดยสรุป หรือผู้ลงโฆษณาจะกระตือรือร้นในการยื่นเงิน ซึ่งก็ไม่เคยเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในอดีต รายได้โฆษณาของเฟสบุ๊คนั้นมีเพียงแต่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยทำรายได้ 12.8 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯในไตรมาศที่แล้ว และเงินกองกลางทั้งหมดของผู้ลงโฆษณานั้นก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเช่นเคย ไม่มีเหตุผลที่จะต้องกลัวกับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการทำงานใหม่ หากคุณได้อุทิศตัวในการมอบเนื้อหาที่มีคุณค่า และมีคุณภาพแก่ลูกค้าอยู่แล้ว

แหล่งที่มา
https://blog.hootsuite.com/facebook-algorithm-change-2018
https://www.recode.net/2018/3/7/17087468/facebook-ad-prices-increase-algorithm-news-feed

บทความที่น่าสนใจ